เรื่องย่อ
พระกีสาโคตมีเถรี เดิมมีชื่อว่า กีสา เพราะรูปร่างผอมบาง ท่านเป็นธิดาของตระกูลที่เก่าแก่ตระกูลหนึ่งในกรุงสาวัตถี วันหนึ่งนางเดินไปที่ตลาดได้เหลือบไปเห็นพ่อค้าคนหนึ่งนำเอาทองมากองไว้ นางจึงเข้าไปถามด้วยคำว่า “คุณพ่อ ทำไมคุณพ่อนำทองมาขาย” ด้วยคำพูดของนางทำให้พ่อค้าที่ถูกเรียกว่า “คุณพ่อ” ตื่นเต้นเป็นการใหญ่ เนื่องจากพ่อค้าคนนี้เดิมเป็นเศรษฐีในเมืองสาวัตถี จู่ ๆ วันหนึ่ง ทองที่มีทั้งหมดได้กลายเป็นถ่าน จึงสร้างความโศกเศร้าแก่เศรษฐีเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเพื่อนเศรษฐีที่รู้เรื่องราวก็พากันมาปลอบโยนและแนะนำให้เศรษฐีให้ลองเอาถ่านทั้งหมดไปกองไว้ที่ตลาด เผื่อมีใครสักคนมองเห็นแล้วพูดว่าทองก็ ให้คนๆ นั้นจับถ่านเหล่านี้แล้ว ถ่านก็อาจกลายเป็นทองได้ เศรษฐีจึงได้ทำตามคำแนะนำของเพื่อน เมื่อนางกีสาโคตรมีมาพบ เศรษฐีจึงให้นางลองหยิบให้ดู เมื่อนางหยิบถ่านขึ้นมาก้อนหนึ่ง ถ่านก็กลายเป็นทองจริงๆ และเมื่อนางหยิบก้อนถ่านทั้งหมด ก้อนถ่านเหล่านั้นก็กลายเป็นทองตามเดิม เศรษฐีรู้ว่านางยังไม่แต่งงาน จึงไปสู่ขอนางให้แต่งงานกับบุตรชายของตน นางก็ให้กำเนิดบุตรคนหนึ่ง แต่อยู่ได้ไม่นาน บุตรน้อยของนางก็เสียชีวิตกระทันหัน นางเสียใจเป็นอย่างมาก ไม่ยอมให้ใครเผาศพลูกชาย นางเที่ยวเสาะหาคนที่จะสามารถรักษาลูกชายของนางให้กลับฟื้นได้จนมีผู้แนะนำ ให้นางไปเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อให้พระพุทธองค์รักษา นางดีใจมากจึงได้อุ้มศพบุตรชายรีบไปเฝ้าพระพุทธเจ้าซึ่งประทับ อยู่ที่พระวิหารเชตวัน นอกเมืองสาวัตถี เมื่อเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าแล้ว นางได้กราบทูลให้พระพุทธองค์รักษาบุตรน้อย พระพุทธองค์ตรัสให้นางไปเอาเมล็ดพันธุ์ผักกาดมาสักกำมือหนึ่งและเมล็ดพันธุ์ผักกาดนั้นจะต้องเอามาจากบ้านเรือนที่ไม่มีใครตาย นางกีสาโคตมีอุ้มลูกน้อยไปเที่ยวขอเมล็ดพันธุ์ผักกาดจากชาวบ้านทั่วทุกครัวเรือน ไม่ได้แม้แต่เมล็ดเดียว เนื่องจากแต่ละครัวเรือนก็มีคนตายมาแล้วทั้งสิ้น จนในที่สุดนางก็ได้คิดว่า ความตายเป็นสัจจะแห่งชีวิต สิ่งใดมีการเกิดขึ้น สิ่งนั้นก็มีการแตกดับไปในที่สุด เมื่อคิดได้ดังนี้ นางจึงจัดการเผาศพลูกชายตนเอง แล้วเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ก็ได้ตรัสโลกธรรมสั้นๆ ให้ฟังว่า“มฤตยูย่อมพาชีวิตของคนที่ยึดติดมัวเมาในบุตรและในทรัพย์สินไป ดุจเดียวกับกระแสน้ำหลากมาพัดพาเอาชีวิตของประชาชนผู้นอนหลับใหลไปฉะนั้น” นางกีสาโคตมีก็ได้บรรลุโสดาปัตติผล กราบทูลขออุปสมบทเป็นพระภิกษุณี เมื่อบวชแล้วได้นามตามเดิมว่า “พระกีสาโคตมีเถรี” และในที่สุดพระกีสาโคตมีเถรีก็ได้บรรลุพระอรหันตผลพร้อมปฏิสัมภิทาพระกีสาโคตมีเถรีได้ รับยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเป็นเอตทัคคะ (ความเป็นเลิศกว่าผู้อื่น) ในทางทรงจีวรเศร้าหมอง เป็นผู้ถือธุดงควัตรเคร่งครัด มีความเป็นอยู่เรียบง่ายอย่างยิ่ง เป็นสตรีที่มีบทบาทในการจรรโลงพระพุทธศาสนาอย่างดียิ่งท่านหนึ่ง
คุณธรรมที่ควรถือเป็นแบบอย่าง
1. เป็นผู้มีความคารพนอบน้อม: นางกีสาโคตรมีสมัยเป็นฆราวาสนางเป็นคนที่มีความเคารพนอบน้อมต่อสามีบิดา มารดาของสามีอย่างยิ่งตลอดถึงต่อคนทั้งปวง
2. เป็นครูที่ดีของสตรีทั้งหลาย: พระกีสาโคตมีเถรี ได้ผ่านประสบการณ์ชีวิตอันขมขื่นมาแล้ว รู้รสชาติแห่งความทุกข์เพราะวิปโยค เมื่อมาอยู่ในร่มเงาพระพุทธศาสนา ได้พบสุขที่แท้จริงแล้ว ก็มีความสงสารเห็นใจผู้ยังอยู่ในห้วงทุกข์นั้น จึงมักเทศน์สั่งสอนผู้คนผู้กำลังทุกข์ ให้หาทางแก้ทุกข์ในทางที่ถูกต้อง
3. เป็นผู้มีชีวิตที่เรียบง่าย: สมัยเป็นฆราวาสนางเป็นสะใภ้ในตระกูลร่ำรวยเมื่อออกบวช กลับสันโดษด้วยปัจจัยสี่
บล็อกสีแสบตาดี
ตอบลบซาบซ่านนนนน >v<
มีสาระดีมาก ^^
ตอบลบใครอ่ะชู 2 นิ้ว
ตอบลบว้าว !!!!
ตอบลบวิชา พระพุทธศาสนา
ยอดไปเลยนะ เนี่ยยย
เนื้อหาละเอียดมากมาย
555 ว่างงงๆๆๆๆ
ตอบลบเลยมาเม้น
Nice!!!
Hello o!!~
ตอบลบกลัวอ่ะ !!
ตอบลบพระพุทศาสนา - -
แต้งกิ้วๆ เม้นให้แล้วน้ะ :)
ตอบลบMerkur 15c Safety Razor - Barber Pole - Deccasino
ตอบลบMerkur 15C Safety Razor - 메이피로출장마사지 Merkur - 15C septcasino.com for Barber Pole is the perfect introduction kadangpintar to the Merkur Safety https://deccasino.com/review/merit-casino/ Razor. https://deccasino.com/review/merit-casino/